รัฐมนตรีพาณิชย์จีนระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐดําเนินไปด้วยดี “อย่างยิ่ง” ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และทั้งคู่ตกลงจัดการเจรจาการค้าในเดือนต.ค. ณ กรุงวอชิงตัน ประกอบกับ เกิดความหวังที่ว่า จีนจะลดสัดส่วนการกันสํารองสําหรับธนาคารเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่น จนกระตุ้นให้นักลงทุน โยกเงินลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนปิดตลาดปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ราว 3.054 หมื่นล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 182.7% ของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยในรอบ 30 วันซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.671 หมื่นล้านหุ้นต่อวัน จนทําให้ทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกขายออกมา อย่างไรก็ตาม ราคาทองคําอ่อนตัวลงไม่มากและสามารถทรงตัวในระดับสูง น่าจะพอทําให้ในระยะสั้น ราคาอาจเคลื่อนไหวในทิศทางค่อยๆขยับขึ้น เบื้องต้นหากราคาขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ 1,555-1,557 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน นักลงทุนอาจต้องระวังแรงขาย โดยหากราคามีการย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,535-1,533 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก็จะเป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกําไรอีกครั้ง ที่มา ylgbullion.co.th
ข่าวราคาทองคำ 14 มิถุนายน 2562 (ภาคค่ำ)
นายแลร์รีย์ คัดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทําเนียบขาวระบุว่า เขาและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐมีความคิดเห็นคล้ายกันเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ “0.50%” เพื่อรับมือต่อความจริงทางเศรษฐกิจในปัจจุบันได้อย่างแม่นยํามากขึ้น แนวคิดดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึง ความกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่กําลังชะลอตัวลง นอกจากนี้ นายเจฟฟรีย์ กุนด์ลาช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท DoubleLine Capital ซึ่งดูแลสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 1.3 แสนล้านดอลลาร์ ระบุว่า ความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นสู่ 40-45% และความเป็นไปได้อยู่ที่ 65% ภายในปีหน้ามุมมองดังกล่าว สร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคํา ทั้งนี้ การไต่ขึ้นของราคาทองคําวันนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากแรงซื้อเก็งกําไรระยะสั้นที่เข้ามา หากราคาทรงตัวในระดับสูงได้แข็งแกร่งอาจจะได้เห็นการดีดตัวทดสอบแนวต้าน 1,366 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากราคาทองไม่สามารถขึ้นไปเหนือโซนดังกล่าวอาจกระตุ้นให้มีแรงขายทํากําไรระยะสั้นออกมา เบื้องต้นประเมินแนวรับไว้ที่ 1,348-1,341 ดอลลาร์ต่อออนซ์โดยอาจพิจารณาเข้าซื้ออีกครั้งหากราคาทองไม่หลุดโซนแนวรับดังกล่าว ที่มา ylgbullion.co.th
>> ทองวันนี้ <<
เผยภาพเคส ‘iPhone 11 Max’ และ ‘iPhone 11 R’ ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นรูปลักษณ์ของโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จาก Apple อย่าง ‘iPhone 11‘ หรือ ‘iPhone XI’ กันไปแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าภาพเรนเดอร์ที่ออกมานั้นสามารถยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงได้มากน้อยขนาดไหน มาคราวนี้ก็มีเคสมาให้ดูอีก แต่เป็นเคสของ iPhone 11 Max และ iPhone 11R ที่คาดกันว่าจะเปิดตัวพร้อมๆ กัน โดยเป็นภาพที่ถูกเปิดเผยโดยเว็บไซต์ของอังกฤษที่มีชื่อว่า Mobile Fun ซึ่งในรูปจะเห็นว่าการออกแบบทุกอย่างยังเหมือนเดิมกับรุ่นก่อนหน้า ส่วนที่ข่าวลือว่าในรุ่นนี้จะมีการเปลี่ยนพอร์ตจาก ‘Lightning’ ไปเป็นพอร์ต ‘USB-C’ ตาม ‘iPad Pro’ ไปติดๆ ก็ไม่ได้เป็นความจริงแต่อย่างใด
มาดูที่ด้านหลังของเครื่องกันบ้าง ใน iPhone 11 Max จะให้กล้องมาทั้งหมด 3 ตัว มีลักษณะเป็นเหลี่ยมเหมือนในภาพเรนเดอร์ที่ออมา ส่วน iPhone 11 R จะเป็นกล้องคู่ ซึ่งสมาร์ตโฟนของจริงจะเป็นยังไงก็ต้องรอติดตามในวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อไปปลายปี 2019
ที่มา : http://temurdemir.com/2019/06/27/first-look-iphone-11-max-iphone-11r-case/
อ่านข่าวไอทีเพิ่มเติม : http://temurdemir.com/category/ข่าวไอที/
น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 เกิดภาวะป่วยมีเลือดออกปากและจมูก
คนที่ทราบข่าวของ น้ำตาล เดอะสตาร์ 5 หรือ น้ำตาล-บุตรศรัณย์ ทองชิว นักแสดงสาวที่รับบท หมวดรัน จากซิทคอมผู้กองเจ้าเสน่ห์ ที่เกิดภาวะป่วยมีเลือดออกปากและจมูก และมีภาวะหายใจไม่สะดวกจนต้องมีการปั๊มหัวใจที่บ้าน จากนั้นครอบครัวได้นำตัว น้ำตาล ส่งโรงพยาบาลที่จังหวัดสมุทรสาครเป็นการเร่งด่วน
ที่มา: อาการ น้ำตาล เดอะสตาร์
ข่าวราคาทองคำ 25 มีนาคม 2562 (ภาคค่ำ)
จากราคาทองย้อนหลัง ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก กดดันดัชนี MSCI ของเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญีปุ่นร่วง 1.70% ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ดัชนีนิกเกอิร่วง 3% สู่ 20,977.11 จุดในช่วงปิดตลาดวันนี้ ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.พ.และเป็นการร่วงรายวันครั้งใหญ่ทีสุด นับตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค. ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นแซงหน้าพันธบัตร ระยะยาวได้ สะท้อนสัญญาณภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่กําลังชัดเจนขึ้น แนวโน้มดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม ราคาทองคําขยับขึ้นไม่มาก เพราะนักลงทุนยัง ระมัดระวังการซื้อขายก่อนการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนกับสหรัฐ และความวิตกเกียวกับเบร็กซิทซึงกระทบปอนด์และยูโรในเชิงลบ แนะนําว่า หากราคาขยับขึ้นให้จับตาโซนแนวต้านระดับ 1,317-1,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะหากราคาทองคําทดสอบโซนดังกล่าวยังไม่สามารถขึ้นไปยืนได้อาจแบ่งทองคําออกขาย โดยในระยะสั้นหากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกําไรระยะสั้นเพื่อหวังทํากําไรจากการดีดตัวอีกครั้ง ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,304-1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่มา ylgbullion.co.th
>> ทองวันนี้ <<
ข่าวราคาทองคำ 06 มีนาคม 2562 (ภาคเช้า)
ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองย้อนหลังยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับตํ่าสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ เนื่องจากเผชิญกับ ปัจจัยกดดันอย่างสกุลเงินดอลลาร์ ที่วานนี้ แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเป็นวันทําการที่ 5 ติดต่อกัน หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด อาทิ ยอดขายบ้าน ใหม่ในเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.7% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ.จาก ISM ก็เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ59.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเช่นกัน ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์จนกดดันให้ราคาทองวันนี้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.บริเวณ 1,281 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของวันอังคาร ก่อนที่ราคาทองฟื้นตัวขึ้นได้บ้างในช่วงปลายตลาด สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ. จาก ADP, ดุลการค้าเดือนก.พ. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือBeige Book รวมไปถึงติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการทําข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ, การเจรจาเกี่ยวกับประเด็น Brexit ระหว่าง EU และอังกฤษ เพือเป็นปัจจัยชี้นำการเคลื่อนไหวของราคาทองคําในระยะนี้ ที่มา ylgbullion.co.th
>> ทองวันนี้ <<
วิเคราะห์ราคาทอง ภาคค่ำ 08 กุมภาพันธ์ 2562
นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ ได้เข้าพบนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพ ยุโรป (EU) เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ดี การหารือดังกล่าวไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใดโดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพบกันอีกครั้งก่อนสิ้นเดือนนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit เมื่ออังกฤษมีแนวโน้มถอนตัวจาก EU โดยปราศจากข้อตกลงยังคงสร้างความผัวผวนต่อสกุลเงินปอนด์ในระยะอันใกล้ จนส่งผลลบต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคํา ทั้งนี้ แนะนําเก็งกําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคา โดยรอจังหวะเข้าซื <อบริเวณแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อหวังขายทํากําไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น แต่ถ้าราคาทองหลุดโซน 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ให้ขายตัดขาดทุน ขณะที+นักลงทุนที+มีทองคําในมือ อาจทยอยขายทํากําไรตามบริเวณแนวต้าน 1,316-1,319 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่มา ylgbullion.co.th
>> ทองวันนี้ <<
บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคบ่าย 23 มกราคม 2562
ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ แกว่งตัวในกรอบแคบหลังวานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่เริ่มขยับขึ้นได้อย่างจํากัดหลังรายงานข่าวระบุว่า วุฒิสภาสหรัฐ เตรียมโหวตร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยือมาเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนในขณะนี้โดยร่างกฎหมายงบประมาณ 2 ฉบับทั้งจะมีการลงมติในครังนี้จะมีฉบบหนึ่งที่รวมงบประมาณสําหรับสร้างกําแพงกนชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้าน ดอลลาร์ตามคําเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ส่วนอีกฉบบหนึ่งจะเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลที่ถูกชัตดาวน์นั้น มีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. แต่คาดว่าร่างกฎหมายทั้ง2 ฉบับอาจจะเผชิญกับความไม่แน่นอนในวุฒิสภา โดยร่างกฎหมายแต่ละฉบับจำเป็นจะต้องได้รับการโหวต 60 เสียง จึงจะสามารถผ่านการพิจารณาได้แนะนํานักลงทุนจบตาประเด็นนี้เพราะความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในสหรัฐเป็นปัจจยหนึ่งที่หนุนให้ราคาทองคําปรับตวขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หากสหรัฐยุติภาวะชัตดาวน์ ได้สําเร็จ อาจส่งผลให้ทองคํา เผชิญแรงขายกดดนราคาทองให้อ่อนตัวลง ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า แม้ราคาทองคํามีการปรับตวลดลง แต่ระยะสนหากพยายามจะดีดตวขึ้นไป ทดสอบแนวต้านระดับ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,290-1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดัน ให้ราคาลงมาสู่แนวรับเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้งจึงแนะนำกลยทธุ การลงทุนสำหรับการขายอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,290 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากผ่านขึ้นไปให้ชะลอการขายไปที่ 1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์และหากสามารถยืนเหนือ 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อาจเสี่ยงซื้อ โดยตัดขาดทุนหากราคาทองยืนแนวดังกล่าวไม่ได้
Come Back ! กระเป๋าสะพายข้าง 5 สี จาก Rompboy Sacoche
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นกระเป๋าที่คุณผู้ชายแนวๆ อย่างเราจะต้องรีบไปจับจองมาเป็นเจ้าของ โดยล่าสุด Rompboy ได้นำกระเป๋าสะพายข้างขนาดเล็กกลับมาขายอีกครั้ง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากกระเป๋า Outdoor Style สำหรับไว้เก็บของจุกจิกในแคมป์ หรือเมื่อต้องออกไปเดินป่า กลายมาเป็นไอเทมสตรีทแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ มีด้วยกันถึง 5 สี ได้แก่ เขียว , น้ำเงิน , ส้ม , ม่วง , ครีม มีฟังก์ชั่นที่เอื้อให้คุณหนุ่มๆ พวกไปใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา เชื่อได้ว่าอาจจะกลายเป็นไอเทมชิ้นอีกชิ้นหนึ่งที่คุณผู้ชายต้องติดใจ
กระเป๋าสะพายข้าง Rompboy Sacoche ไม่ได้มาพร้อมกับความกะทัดรัดพกพาง่ายเท่านั้น แต่ยังมี 3 ช่องเก็บของ 3 ขนาด ทั้งช่องใหญ่ ช่องกลาง และช่องสำหรับใส่เหรียญ ตัวกระเป๋ากว้าง 24.3 ยาว 17.6 เซนติเมตร สามารถปรับสายให้เข้าตัวเราได้ วางจำหน่ายในราคาใบละ 1,250 บาท โดยจำหน่ายในช่องทางออนไลน์เท่านั้น หนุ่มๆ คนไหนที่สนใจก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ rompboybkk
บทวิเคราะห์ ราคาทอง ภาคเช้า 2 สค 61
ราคาทอง ภาคเช้า
ราคาทอง วานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 7.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงแรกราคาทองคําได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน ของภาคเอกชนจาก ADP ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 219,000 ตําแหน่งในเดือนก.ค.
ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. ก่อนที่ดอลลาร์จะแข็งค่าต่อหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ส่วน FOMC tatement ระบุถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
นอกจากนี้ ข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ยังดําเนินต่อไปหลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษี นําเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์เป็นอีกปัจจัยที่หนุนดอลลาร์อีกด้วย สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคําร่วงลงแตะระดับ ต่ำสุดบริเวณ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์และเคลื่อนไหวไม่ไกลจากจุดดังกล่าวในช่วงเช้าวันนี้ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลง -3.24 ตัน
สําหรับราคาทอง วันนี้ ติดตาม ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และติดตามการเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานและยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐ