ขันเงิน ไทยเทเนี่ยม สวมกอดยินดี งานแต่ง ศรีริต้า

งานแต่งงานของนางเอกสาวสวย ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น กับแฟนหนุ่มไฮโซ กรณ์ ณรงค์เดช ผ่านพ้นไปแล้วอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางเพื่อนๆ ทั้งในวงการดาราและไฮโซที่มาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ และหลายคนที่ทยอยลงรูปบรรยากาศงานแต่งงาน ศรีริต้า-กรณ์ ลงในโซเชียล

และอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เห็นอดีตแฟนของศรีริต้า อย่าง ขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทยเทเนี่ยม ที่ได้เดินทางไปกับครอบครัว พร้อมคุณแม่ เพื่อไปแสดงความยินดีกับศรีริต้าด้วย เรียกว่าเป็นมิตรภาพดีๆ ที่ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน

ซึ่งทันทีที่ขันเงินโพสต์รูปลงโซเชียลหลายรูป โดยเฉพาะภาพที่ขันเงินสวมกอดศรีริต้า ก็มีแต่คนเข้ามากดไลก์กันเป็นจำนวนมาก และชื่นชมความน่ารักของทั้งคู่ และต่างบอกว่านับถือหัวใจของขันเงินด้วย เรียกว่าเป็นภาพที่ดีต่อใจคนที่ได้เห็นด้วย

และความน่ารักของขันเงินนั้น ตั้งแต่ได้ยินข่าวว่า กรณ์ ณรงค์เดช คุกเข่าขอศรีริต้าแต่งงาน ขันเงินก็ส่งข้อความมาแสดงความยินดีตั้งแต่แรกแล้ว

ปมดราม่า scb ไม่เลือกข้าง หมดสัญญา ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม

เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงออนไลน์ หลังจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กขู่แบนธนาคารไทยพาณิชย์ จากกรณีมีภาพของ “ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม” ในภาพโปรโมตบริการของทางธนาคาร โดยระบุข้อความว่า

“เรียน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผมขอสอบถามว่า ยุทธนา บุญอ้อม (ป๋าเต็ด) เป็นพรีเซ็นเตอร์ ของธนาคารไทยพาณิชย์หรือไม่ ถ้าใช่ผมจะยกเลิกธุรกรรมทางการเงินทั้งปวงที่ผมและบริษัทในเครือมีกับธนาคารไทยพาณิชย์ ผมขอทราบคำตอบภายในวันศุกร์ที่ 6 มี.ค.63 ก่อนเวลา 15.00 น. จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ”

ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า
ตามที่ปรากฏในข่าวอ้างถึงธนาคารไทยพาณิชย์ในทั้งสองฝั่งของขั้วการเมืองนั้น ธนาคารฯ ขอชี้แจงนโยบายของธนาคารว่า ธนาคารมีนโยบายยึดมั่นในการเป็นกลางทางการเมือง ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

โอ๊ต ปราโมทย์ ตอบกับชาวเน็ต โล่งใจไม่ใช่แฟน แพท ณปภา

แพท ณปภา บอกว่าตนเองโสดมาได้ 3 ปีและถูกจับจ้องจับเชียร์ให้เป็นแฟนกับ โอ๊ต ปราโมทย์ เพราะทั้งสองคนมีความสนิทสนมจากการได้ร่วมงานกันและมีเคมีที่เข้ากันมากๆ ทำให้เกิดแรงลุ้นแรงเชียร์คู่จิ้นเลยเกิดขึ้น

ซึ่งหลังจากที่ แพท ณปภา ได้ออกข่าวเปิดตัวนั้นตัดภาพมาที่อินสตาแกรมของ โอ๊ต ปราโมทย์ นั้นมีแฟนคลับเข้ามาฟ้อง พ่อหมีโอ๊ต อย่างหนักหน่วงว่า แม่แพท กำลังมีแฟนใหม่กันเป็นแถวเลย พร้อมกับให้กำลังใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว

นอกจากนี้ในทวิตเตอร์ของ โอ๊ต ปราโมทย์ ยังพบว่าเจ้าตัวได้รีทวิตชาวเน็ตรายหนึ่งที่ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับ แพท มีแฟนใหม่และดีใจที่ไม่ได้เป็นแฟนกับ โอ๊ต ปราโมทย์ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวจะหมด Passion

 

ไวรัสโควิด 19 ต่างประเทศรณรงค์ ไม่ให้ใส่ หน้ากากอนามัย แต่คนไทยควรใส่มั้ย

ทำไมต่างประเทศรณรงค์ไม่ให้ใส่ “หน้ากากอนามัย”
สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงขึ้นจนกลายเป็นประเทศเสี่ยงติดเชื้ออย่างสิงคโปร์ รวมถึง WHO หรือ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า คนที่ควรใช้ “หน้ากากอนามัย” คือคนที่กำลังป่วยเป็นไข้หวัด มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล รวมถึงคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ หน้ากากอนามัยออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายที่เกิดจากการไอ จาม กระจายตัวออกมาและสามารถแพร่เชื้อไวรัสไปยังคนที่ร่างกายปกติดีได้ ดังนั้นคนที่ “จำเป็น” ต้องใส่หน้ากากอนามัยจริงๆ ก็คือคนที่กำลังป่วย มีไข้ เป็นหวัด ไม่สบายอยู่นั่นเอง (ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดประเภทใดก็ตาม) และคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดีจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยแต่อย่างใด

อันตรายจากการใส่หน้ากากอนามัย ทั้งที่ไม่ได้ป่วย
นอกจากคนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นว่า การใส่หน้ากากอนามัยของผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดียังอาจเป็นการเพิ่มการติดเชื้อไวรัสมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้ โดย Dr. Eli Perencevich อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ และระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยการแพทย์ไอโอวา กล่าวกับเว็บไซต์ Forbes ว่า “คนธรรมดาที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตามปกติไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย และไม่ควรใส่ด้วย เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้จริงๆ ยิ่งถ้าหากสวมใส่อย่างผิดวิธี ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากขึ้น เพราะผู้สวมใส่อาจเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อยขึ้นกว่าเดิม”

นอกจากนี้ยังระบุอีกด้วยว่า ถึงแม้จะคนปกติจะใส่หน้ากากอนามัยและพยายามไม่เอามือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าระหว่างวัน ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่ดี นั่นเป็นเพราะว่าหน้ากากอนามัยถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของละอองน้ำลายจากการไอ จาม ออกไปสู่ภายนอก ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายเข้าสู่จมูก ปาก หรือทางเดินหายใจของเรา หากต้องการหน้ากากที่ป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายของผู้ป่วยเข้าสู่ร่างกายของเราได้จริงๆ ต้องเป็นหน้ากากอนามัยที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เมื่อต้องทำการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อรุนแรง อย่างหน้ากากชนิด N95 หรือ FFP2 ขึ้นไป รวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ (respirator) ที่สามารถป้องกันอนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เช็กชนิดของหน้ากากได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา)

 

สรุปเรื่อง ไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 คืออะไร อาการโควิด 19

ไวรัสโคโรนา หรือไควิด-19 คืออะไร ?
ไวัรสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) นั่นเอง ดังนั้น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และไวรัสโควิด-19 จึงหมายถึงไวรัสชนิดเดียวกัน

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 มาจากไหน ?
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 แรกเริ่มเดิมทีถูกค้นพบจากสัตว์ก่อน โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วคนที่อยู่ใกล้ คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากตลาดที่ค้าขายสัตว์ทะเล และสัตว์หายากเหล่านี้

อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19
อาการที่สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองมี 5 อาการหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้

มีไข้

เจ็บคอ

ไอแห้ง ๆ

น้ำมูกไหล

หายใจเหนื่อยหอบ
ทางด้านแพทย์อาจจะตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยการเอกซ์เรย์ปอด แล้วพบว่าปอดบวมอักเสบร่วมด้วย หากมีอาการหนักมาก ๆ (พบว่าติดเชื้อในระยะหลัง ๆ แล้ว) อาจอันตรายถึงอวัยวะภายในต่าง ๆ ล้มเหลว