นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง มนต์สิทธิ์ คำสร้อย เกือบจะได้เป็นเศรษฐี 30 ล้าน หลังจากพลาด รางวัลที่1 เพราะเลขผิดไปแค่ตัวเดียว
วดล่าสุดที่มนต์สิทธิ์ เพิ่งออกมาโพสต์เลขเด็ดให้แฟนๆ ได้ซื้อตามกัน ถึงจะบอกว่าซื้อไม่เยอะ แต่ในมือนั้นมีลอตเตอรี่ชุดใหญ่ 15 หลายชุดทีเดียว
พร้อมแคปชั่น ที่เห็นแล้วต้องไปตาม
“งวดที่1 กันยายนไม่ค่อยซื้อเยอะ เบาๆชิลๆ ผมชอบส่วนตัว 821 ตัดเอานะ ระวัง 22โผล่มา โปรดใช้วิจารณญาณในการชม. แค่เป็นแนวทางการซื้อล็อตเตอรี่นะครับทำงานเท่านั้นที่ได้เงินแบบชัวร์ๆ…”
ศบค. รายงาน เวลา 11.00 น. ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย
ล่าสุด สถานการณ์โควิด-19 ในไทยวันนี้ 26 ส.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย ซึ่งเป็นผู้เดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย เป็นหญิงไทย อายุ 38 ปี อาชีพ ประกอบธุรกิจส่วนตัว
ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,403 ราย หายป่วยเพิ่ม 8 ราย รวมหายป่วยแล้ว 3,237 ราย
โดยยังมีผู้ป่วยที่รักษาอาการอยู่ 108 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม มีผู้เสียชีวิตรวม 58 ราย
เลขเด็ดอ่างน้ำมนต์ อาตี๋สำเภาทองและไอ้ไข่ ที่ศาลาอาตี๋สำเภาทอง และ ไอ้ไข่ ภายในวัดใหม่สี่หมื่น ตำบลสี่หมื่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
บรรดานักเสี่ยงโชคทยอยกันเดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ นำ น้ำแดง ผลไม้ ของเล่นเด็ก ป๋องแป๋ง ไก่คู่ หนังสะติ๊ก ดอกไม้ ธูป เทียน มากราบไหว้ขอพร
สำหรับหวยงวดที่ผ่านมา มีคนถูกรางวัลแล้วหลายงวด หลายคน สำหรับ เลขเด็ด ที่ลอยในอ่างน้ำมนต์ ที่ต้องอยู่เบื้องหน้า อาตี๋สำเภาทอง และ ไอ้ไข่
วันนี้ปรากฏเลข จำนวน 6 ตัว คือ 3, 4, 5, 7, 8 และ 9 (6) ที่ลอยหมุนวน และมีการจับกลุ่ม อาทิ 467, 38 และเลขเดี่ยว 5 ทั้งนี้ ตัวเลขจะลอยเป็นคู่วนเวียนไปเรื่อยไม่อยู่กับที่ตลอดเวลา
งานแต่งงานของนางเอกสาวสวย ริต้า-ศรีริต้า เจนเซ่น กับแฟนหนุ่มไฮโซ กรณ์ ณรงค์เดช ผ่านพ้นไปแล้วอย่างชื่นมื่น ท่ามกลางเพื่อนๆ ทั้งในวงการดาราและไฮโซที่มาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งคู่ และหลายคนที่ทยอยลงรูปบรรยากาศงานแต่งงาน ศรีริต้า-กรณ์ ลงในโซเชียล
และอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เห็นอดีตแฟนของศรีริต้า อย่าง ขันเงิน เนื้อนวล หรือ ขันเงิน ไทยเทเนี่ยม ที่ได้เดินทางไปกับครอบครัว พร้อมคุณแม่ เพื่อไปแสดงความยินดีกับศรีริต้าด้วย เรียกว่าเป็นมิตรภาพดีๆ ที่ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ซึ่งทันทีที่ขันเงินโพสต์รูปลงโซเชียลหลายรูป โดยเฉพาะภาพที่ขันเงินสวมกอดศรีริต้า ก็มีแต่คนเข้ามากดไลก์กันเป็นจำนวนมาก และชื่นชมความน่ารักของทั้งคู่ และต่างบอกว่านับถือหัวใจของขันเงินด้วย เรียกว่าเป็นภาพที่ดีต่อใจคนที่ได้เห็นด้วย
และความน่ารักของขันเงินนั้น ตั้งแต่ได้ยินข่าวว่า กรณ์ ณรงค์เดช คุกเข่าขอศรีริต้าแต่งงาน ขันเงินก็ส่งข้อความมาแสดงความยินดีตั้งแต่แรกแล้ว
เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนแรงออนไลน์ หลังจาก พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กขู่แบนธนาคารไทยพาณิชย์ จากกรณีมีภาพของ “ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม” ในภาพโปรโมตบริการของทางธนาคาร โดยระบุข้อความว่า
“เรียน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ผมขอสอบถามว่า ยุทธนา บุญอ้อม (ป๋าเต็ด) เป็นพรีเซ็นเตอร์ ของธนาคารไทยพาณิชย์หรือไม่ ถ้าใช่ผมจะยกเลิกธุรกรรมทางการเงินทั้งปวงที่ผมและบริษัทในเครือมีกับธนาคารไทยพาณิชย์ ผมขอทราบคำตอบภายในวันศุกร์ที่ 6 มี.ค.63 ก่อนเวลา 15.00 น. จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ”
ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า
ตามที่ปรากฏในข่าวอ้างถึงธนาคารไทยพาณิชย์ในทั้งสองฝั่งของขั้วการเมืองนั้น ธนาคารฯ ขอชี้แจงนโยบายของธนาคารว่า ธนาคารมีนโยบายยึดมั่นในการเป็นกลางทางการเมือง ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
แพท ณปภา บอกว่าตนเองโสดมาได้ 3 ปีและถูกจับจ้องจับเชียร์ให้เป็นแฟนกับ โอ๊ต ปราโมทย์ เพราะทั้งสองคนมีความสนิทสนมจากการได้ร่วมงานกันและมีเคมีที่เข้ากันมากๆ ทำให้เกิดแรงลุ้นแรงเชียร์คู่จิ้นเลยเกิดขึ้น
ซึ่งหลังจากที่ แพท ณปภา ได้ออกข่าวเปิดตัวนั้นตัดภาพมาที่อินสตาแกรมของ โอ๊ต ปราโมทย์ นั้นมีแฟนคลับเข้ามาฟ้อง พ่อหมีโอ๊ต อย่างหนักหน่วงว่า แม่แพท กำลังมีแฟนใหม่กันเป็นแถวเลย พร้อมกับให้กำลังใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว
นอกจากนี้ในทวิตเตอร์ของ โอ๊ต ปราโมทย์ ยังพบว่าเจ้าตัวได้รีทวิตชาวเน็ตรายหนึ่งที่ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับ แพท มีแฟนใหม่และดีใจที่ไม่ได้เป็นแฟนกับ โอ๊ต ปราโมทย์ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวจะหมด Passion
ทำไมต่างประเทศรณรงค์ไม่ให้ใส่ “หน้ากากอนามัย”
สื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงขึ้นจนกลายเป็นประเทศเสี่ยงติดเชื้ออย่างสิงคโปร์ รวมถึง WHO หรือ องค์การอนามัยโลก (World Health Organization) ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า คนที่ควรใช้ “หน้ากากอนามัย” คือคนที่กำลังป่วยเป็นไข้หวัด มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล รวมถึงคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ หน้ากากอนามัยออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายที่เกิดจากการไอ จาม กระจายตัวออกมาและสามารถแพร่เชื้อไวรัสไปยังคนที่ร่างกายปกติดีได้ ดังนั้นคนที่ “จำเป็น” ต้องใส่หน้ากากอนามัยจริงๆ ก็คือคนที่กำลังป่วย มีไข้ เป็นหวัด ไม่สบายอยู่นั่นเอง (ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดา ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดประเภทใดก็ตาม) และคนที่มีสุขภาพแข็งแรงดีจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่หน้ากากอนามัยแต่อย่างใด
อันตรายจากการใส่หน้ากากอนามัย ทั้งที่ไม่ได้ป่วย
นอกจากคนที่มีสุขภาพแข็งแรงจะไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญยังมีความเห็นว่า การใส่หน้ากากอนามัยของผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงดียังอาจเป็นการเพิ่มการติดเชื้อไวรัสมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวได้ โดย Dr. Eli Perencevich อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ และระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยการแพทย์ไอโอวา กล่าวกับเว็บไซต์ Forbes ว่า “คนธรรมดาที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตามปกติไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัย และไม่ควรใส่ด้วย เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้จริงๆ ยิ่งถ้าหากสวมใส่อย่างผิดวิธี ยังสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้มากขึ้น เพราะผู้สวมใส่อาจเอามือสัมผัสใบหน้าบ่อยขึ้นกว่าเดิม”
นอกจากนี้ยังระบุอีกด้วยว่า ถึงแม้จะคนปกติจะใส่หน้ากากอนามัยและพยายามไม่เอามือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าระหว่างวัน ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่ดี นั่นเป็นเพราะว่าหน้ากากอนามัยถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของละอองน้ำลายจากการไอ จาม ออกไปสู่ภายนอก ไม่ได้ป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายเข้าสู่จมูก ปาก หรือทางเดินหายใจของเรา หากต้องการหน้ากากที่ป้องกันไม่ให้ละอองน้ำลายของผู้ป่วยเข้าสู่ร่างกายของเราได้จริงๆ ต้องเป็นหน้ากากอนามัยที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้เมื่อต้องทำการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อรุนแรง อย่างหน้ากากชนิด N95 หรือ FFP2 ขึ้นไป รวมไปถึงอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ (respirator) ที่สามารถป้องกันอนุภาคขนาดเล็กต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (เช็กชนิดของหน้ากากได้ที่เว็บไซต์ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐอเมริกา)
ไวรัสโคโรนา หรือไควิด-19 คืออะไร ?
ไวัรสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) นั่นเอง ดังนั้น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และไวรัสโควิด-19 จึงหมายถึงไวรัสชนิดเดียวกัน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 มาจากไหน ?
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 แรกเริ่มเดิมทีถูกค้นพบจากสัตว์ก่อน โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วคนที่อยู่ใกล้ คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากตลาดที่ค้าขายสัตว์ทะเล และสัตว์หายากเหล่านี้
อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19
อาการที่สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองมี 5 อาการหลัก ๆ ด้วยกัน ดังนี้
มีไข้
เจ็บคอ
ไอแห้ง ๆ
น้ำมูกไหล
หายใจเหนื่อยหอบ
ทางด้านแพทย์อาจจะตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยการเอกซ์เรย์ปอด แล้วพบว่าปอดบวมอักเสบร่วมด้วย หากมีอาการหนักมาก ๆ (พบว่าติดเชื้อในระยะหลัง ๆ แล้ว) อาจอันตรายถึงอวัยวะภายในต่าง ๆ ล้มเหลว
เรื่องย่อ เนื้อใน
หญิงสาวที่ความคับแค้นอยู่ในใจอย่าง เข็มเพชร เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของธุรกิจจิวเวลรี่ครบวงจรให้ได้ แต่เธอมีคู่แข่งไม้เบื่อไม่เมากันกับ ลิลลี่ ทำให้ทั้งชีวิตของเธอนั้นคือการชิงดีชิงเด่น และต้องเหนือกว่าคนอื่นๆ
โดยเฉพาะเพื่อนสมัยวัยรุ่นของเธออย่าง ราเชน ที่เธอได้ไว้ใจมาก แต่ก็โดนหักหลัง จนทำให้เธอแค้นราเชนมาก เข็มเพชรจึงได้ใช้ ปลี ลูกน้องคนสนิท แถมเป็นภรรยาของราเชน เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นในครั้งนี้ และนั่นทำให้ปลี ต้องกลายเป็นคนรองรับอารมณ์ทั้ง ราเชน สามีผู้ที่มีความต้องการสูง และเจ้านายอย่าง เข็มเพชร ผู้ที่มีอารมณ์แปรปรวน มีความเชื่อมั่นตัวเองสูง แถมยังชอบพูดจาเหน็บแนมให้ทุกคนเจ็บปวด
ปลีโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจ แต่เธอก็มี โปรย ลูกสาววัย 5 ขวบที่ทำให้เธอมีความตั้งมั่นยึดในสิ่งดีงามเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ทำให้เธออดทนต่อสภาพที่โหดร้ายมาตลอด สิ่งที่เข็มเพชรทำอยู่นั้นทำให้สามีผู้รับราชการอยู่ฝ่ายกฎหมายอย่าง สกุล ไม่เห็นด้วย แต่สกุลก็ไม่สามารถห้ามอะไรภรรยาตัวเองได้เลย เพราะสกุลไม่อยากให้ครอบครัวของเขาต้องมีปัญหา และยังเป็นห่วงความรู้สึกของ เพชรสกุล ลูกสาวคนเดียว ทำให้สกุลต้องจำยอมเป็นฝ่ายสงบปากไปทุกเรื่อง
วีณา น้องสาวสุดแซ่บของปลี ได้เข้ามาขออยู่กับปลีด้วยชั่วคราว เหตุเพราะมีปัญหากับสามีจนต้องเลิกลากัน แต่ราเชนไม่ยอม บังคับให้วีณาจ่ายค่าเช่าบ้านให้ ซึ่งเมื่อเรื่องนี้รู้ถึงหูเข็มเพชร เธอจึงรีบเสนอวีณามาทำงานในร้านเพื่อมีเงินเดือนไปจ่ายค่าเช่าบ้านให้กับราเชน เพราะเข็มเพชรหวังจะใช้วีณาทำให้ปลีเลิกกับราเชน แต่หารู้ไม่ว่าวีณาไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิด วีณามองเข็มเพชรออกว่าเนื้อในของเข็มเพชรนั้นเป็นอย่างไร
ด้านเข็มเพชรเมื่อรู้ว่าวีณาไม่หมูอย่างที่คิดไว้ และกลัวว่าจะเห็นเนื้อแท้ของตัวเองว่ากำลังทำไร กลัววีณาจะไปพูดให้ปลีแข็งข้อกับตัวเองได้สักวัน เข็มเพชรจึงได้ใช้เรื่องงานทำให้ปลีผิดพลาด เพื่อเป็นข้ออ้างในการผูกมัดและรั้งปลีไว้ ส่วนวีณาพยายามที่จะเตือนปลีว่าอย่าเห็นเข็มเพชรเป็นแม่พระนัก เพราะภายนอกอาจจะแสดงว่าดี แต่ภายในนั้นอาจจะร้ายกว่าที่คิดไว้ก็ได้ ปลีไม่เชื่อว่าเข็มเพชรจะเป็นคนอย่างนั้น แม้ลึกๆ แล้วเธอรู้ว่าเข็มเพชรเป็นคนอารมณ์ร้ายก็ตาม แต่หลายครั้งที่เธอมีปัญหา ก็มีเข็มเพชรที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเป็นคนแรกเสมอ ทำให้เธอไม่กล้าคิดที่จะแข็งข้อกับเข็มเพชร เพราะถ้าไม่มีเข็มเพชร ปลีก็ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใคร
วีณารู้สึกสงสารพี่สาวตัวเอง เธอจึงได้วางแผนทำอะไรบ้างเพื่อให้ พี่สาวตัวเองได้ตาสว่าง โดยใช้ราเชนเป็นเครื่องมือในการเล่นเกม เมื่อปลีรู้ความจริงจะเธอจะตัดสินใจอย่างไรต่อไป กับคนที่เธอรักและคนที่เธอไว้ใจ ส่วนด้านเข็มเพชรเมื่อความรู้ความจริง ทุกอย่างที่เธอพยายามที่จะแก้แค้นนั้น มันสามารถทำให้เธอมีความสุขได้จริงเหรอ เนื้อแท้จริงของความสุขนั้น ไม่ใช่ของนอกกาย แต่คือการที่เธอนั้นมีคนที่รักเธอจริง บทสรุปสุดท้ายนั้นจะจบลงอย่างไร ติดตามได้ในละครเรื่อง เนื้อใน ทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 20.10 น. ทางช่อง GMM25 ละครเรื่อง เนื้อใน ออกอากาศตอนแรกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 63
ที่มาของเนื้อหา : เรื่องย่อละคร เนื้อใน ละครช่อง GMM25
เกิดประเด็นที่คนในโลกโซเชียลพูดถึงกันแบบถล่มทลาย กับละครเรื่อง ซ่อนเงารัก ที่เปิดตัวของนางเอก ริชชี่ อรเณศ ในบท ขวัญเอยและขวัญมา และส่งไม้ต่อให้กับ มารีน่า ศดานันท์ ในบท ขวัญมา จนถูกพูดถึงในหลายๆมุมมองมากมายของคนดู ทำให้เจ้าตัวออกมาน้อมรับทุกคำติชม และวอนให้คนดูเปิดใจกับการแสดงที่รับไม้ต่อจาก สาวริชชี่
[บทสัมภาษณ์]
“สำหรับกระแสตอนแรกคือต้องบอกว่าล้นหลามมาก ๆ ค่ะ มีทั้งดีและไม่ดี อันนี้ “น่า” ขอน้อมรับไว้ทั้งหมด เพราะน่าเข้าใจว่าการกลับมาของ “ขวัญมา” ในช่วงที่น่ามารับไม้ต่อนั้นค่อนข้าง จะช็อคใจ ช็อคอารมณ์ ความรู้สึกของคนดูไปมาก เพราะจากสิ่งที่คนดูได้ดู “ริชชี่” แสดงไว้ ตัวละครขวัญมาเค้าค่อนข้างจะสดใส อ่อนโยน จิตใจดี น่าสงสาร คนดูเค้ารักและสงสารตัวละครตัวนี้ ไปแล้ว พอ “น่า” มารับช่วงต่อหลังจากศัลยกรรมกลับมา แล้วมาร้ายเลย ทำให้คนดูไม่ชินกับเรา ไหนจะหน้าตาก็ไม่คุ้น เสียงก็ไม่คุ้น ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด คนดูก็เลยรู้สึกเยอะว่า ทำไมตัวละครถึง เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
ซึ่งน่าอยากจะบอกว่าตอนนี้ทุก ๆ คนยังได้เห็นขวัญมาแค่ด้านเดียว อยากให้ติดตามกันต่อไปค่ะ เพราะตัวละคร “ขวัญมา” เค้าโตขึ้น และผ่านกระบวนการคิด ผ่านประสบการณ์ที่เลวร้ายมา เค้าจะไม่ยอมเป็นขวัญมาคนเดิมที่ยอมทุกอย่าง และเสียคนที่เค้ารักไป อีก นี่เป็นสิ่งที่ ผกก. และทีมงาน เค้าผ่านกระบวนการคิดมาแล้วว่าตัวละครตัวนี้จะไปในทิศทางไหน น่าอยากจะขอให้แฟนละครที่ติดตามกันมาตลอดเปิดใจดูกันต่อไป เพราะขวัญมา และขวัญเอยจะ เติบโต และเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ มีทั้งดีและไม่ดี สลับกันไปมาตามสถานการณ์และเหตุผลของตัวเอง อย่าเพิ่งตัดสินใจว่าเรื่องมันจะจบแค่นี้ มันยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะในทุกตัวละคร
เนื้อเรื่องจะยิ่งสนุกและเข้มข้นไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญคือ “มันยังคาดเดาไม่ได้” เหมือนเดิม เรียกว่าเป็นสไตล์ที่ละคร เรื่องนี้มีไม่เหมือนใคร “น่า” อยากจะบอกว่านักแสดงและทีมงานทุกคนตั้งใจกับละครเรื่องนี้มาก สำหรับน่าเองบอกเลยว่ามันยากมากสำหรับการรับบทฝาแฝด ที่สำคัญเป็นแฝดชายหญิง ซึ่งค่อนข้างจะไกลตัวเรามากทั้งบุคลิก อารมณ์ และความรู้สึกของตัวละคร ทำให้น่าต้องมีสมาธิ มีความตั้งใจ ใส่ใจในรายละเอียด น่ารู้เลยว่าตัวเองโตขึ้นไปพร้อมกับตัวละครที่โตขึ้น เราคอนเน็คกับตัวละครได้มาก ขึ้น สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่าขอบคุณทีมนักแสดงทุกท่าน ทีมงานทุกคนที่ให้โอกาสน่าได้เข้ามารับไม้ต่อในตัวละครสำคัญ และในช่วงเวลาที่สำคัญ ขอบคุณคนดูทุกคนที่รักตัวละคร “ขวัญเอย” และ “ขวัญมา” รวมถึงตัวละครทุกตัวในเรื่อง อยากจะบอกว่าตัวละครทุกตัวมีความเป็นมนุษย์ที่ไม่ได้มี เพียงแค่แง่มุมเดียว ทุกตัวละครมีทั้งดีและไม่ดี ก็อยากฝากให้คนดูติดตาม และเป็นกำลังใจให้เราต่อไป จนจบด้วยนะคะรับรองว่าสนุกจริง ๆ ค่ะ”
